หลายๆท่านคงเคยได้ยินมาว่าคอมพิวเตอร์เป็นสาขาที่แยกออกมาจากคณิตศาสตร์ ดังนั้นผู้ที่จะเขียนโปรแกรมก็จึงจำเป็นต้องมีทักษะทางคณิตศาสตร์ด้วย แต่ผมเป็นคนที่เกลียดคณิตศาสตร์อย่างสุดๆ ผมจึงจะมาเล่าเรื่องของตัวผมที่แม้เกลียดคณิตศาสตร์ก็สามารถเขียนโปรแกรมได้ครับ
จุดเริ่มต้นของการเกลียดคณิตศาสตร์ของผมเกิดจากตอนสอบเข้า ม.1 บังเอิญผมสอบเข้าติดห้องเรียนพิเศษคณิตศาสตร์ คณิตศาสตร์ที่เรียนในห้องนี้เป็นโจทย์ระดับแข่งขัน ซึ่งแน่นอนว่าผมไม่สามารถทำได้เลยคะแนนผมก็อยู่อันดับท้ายๆของห้อง ทำให้ผมเกลียดคณิตศาสตร์ไปโดยปริยาย
ช่วง ม.2 เนื่องจากช่วงนั้นติดเกมส์มาก อีกทั้งพึ่งได้ดูภาพยนตร์เรื่อง Antitrust จึงอยากลองเขียนโปรแกรมบ้าง ซึ่ง ตอนนั้นอยากเขียนโปรเกม แต่เราไม่มีความรู้อะไรเลย ผมเลยเดาสุ่ม ไปอ่านภาษา HTML ก่อน แล้วเปิดโน้ตแพตขึ้นมาพิมพ์ตาม พร้อมกับลองแก้โค้ดเป็นแบบฉบับของตัวเองนิดหน่อย และแล้วผมก็ได้สร้างหน้าเว็บเฮ่ยๆขึ้นมาหน้าหน่ึงเป็นหน้าเว็บสีแดงๆ มีลิ้งค์ไปเว็บต่างๆ นั่นคือโปรแกรมแรกที่ผมได้สร้างขึ้น
หลังจากเริ่มหัดเขียน HTML ได้สักพัก ผมก็เริ่มหัดเขียน AutoIT ซึ่งการเขียนทั้งสองภาษานี้ทำให้ผมคิดว่าการเขียนโปรแกรมก็แค่การเขียนตามรูปแบบเท่านั้น การจะทำอะไรก็แค่คิด แล้วเอาสิ่งที่จะทำไปค้นใน Google เพราะว่าสิ่งที่เราจะทำทางเว็บไซต์ของภาษานั้นๆก็เขียนวิธีการใช้งานคำสั่งไว้หมดแล้ว แค่เราจำคำสั่งได้ก็สามารถเขียนได้แล้ว
แต่ว่าหลังจากนั้นไม่นานผมก็ได้พบกับอัลกอริทึมเป็นครั้งแรก อัลกอริทึมนั้นคือวิธีการทำงานของโปรแกรมแม้ว่าโปรแกรมเราจะทำงานได้เหมือนกันแต่ความเร็วในการทำงานก็เป็นสิ่งสำคัญกับการทำงานมาก แต่ในช่วงเริ่มต้นผมพยายามไม่กังวลเกี่ยวกับอัลกอริทึมเนื่องจากอัลกอริทึมใช้คณิตศาสตร์มากแต่เราไม่ชอบคณิตศาสตร์อย่างแรง
แม้ผมจะพยายามศึกษาอัลกอริทึมทั้งๆที่ตนเองไม่ชอบ แต่ระหว่างค้นหาเกี่ยวกับอัลกอริทึมไปใน Google นั้นผมก็พบว่าโปรแกรมทีคนอื่นเขียนๆกันไม่ได้ใส่ใจเรื่องอัลกอริทึมขนาดนั้นเพราะว่าเรามีไลบารี่ให้ใช้งาน เราจึงสามารถแบ่งเบาภาระด้านคณิตศาสตร์ลงไปได้มาก
จึงจะเห็นว่าการเขียนโปรแกรมจำเป็นต้องใช้คณิตศาสตร์ แต่ถ้าเราไม่ชอบมัน เราก็ไม่จำเป็นต้องฝืนใช้มันก็ได้เนื่องจากมีคนทำเป็นรูปแบบไลบารี่ให้เราใช้งานอยู่แล้ว ดังนั้นแม้ไม่ใช้ความรู้ทางคณิตศาสตร์เลยก็สามารถเขียนโค้ดให้ทำงานได้เหมือนกัน
สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นเขียนโปรแกรมจากศูนย์ลองศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ code.org